หลายคนอาจจะคิดว่า การต่อเติมบ้านเป็นเรื่องง่าย ๆ แค่มีงบประมาณก็สามารถทำได้ แต่ความจริงแล้วการต่อเติมบ้านนั้น มีกฎหมายควบคุมหลายอย่าง ซึ่งหากทำผิดกฎหมาย อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ อาทิ ทะเลาะกับเพื่อนบ้าน โดนปรับ หรือร้ายแรงถึงขั้นต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ
เพราะฉะนั้น หากคุณกำลังอยากต่อเติมบ้าน แต่กังวลเรื่องกฎหมาย ในบทความนี้ นครทอง ได้รวบรวมข้อควรรู้สำคัญเกี่ยวกับการต่อเติมบ้าน เพื่อให้คุณสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่โดนร้องเรียน รวมถึงป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลัง
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการต่อเติมบ้าน และการซ่อมแซมบ้าน เป็นสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วทั้ง 2 กระบวนการมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องจุดประสงค์ ขอบเขตงาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ซึ่งการทำความเข้าใจความแตกต่างนี้ จะช่วยให้คุณสามารถวางแผน และตัดสินใจปรับปรุงบ้านสมุทรปราการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
การต่อเติมบ้าน เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้กับบ้าน อาทิ ต่อเติมห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น หรือสร้างโรงเก็บรถเพิ่ม โดยในทางกฎหมายอาจต้องขออนุญาต จากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนดำเนินการ ขึ้นอยู่กับขนาด รูปแบบ และโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ
สำหรับการซ่อมแซมบ้าน ถือเป็นการแก้ไข หรือซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด และเสียหายของโครงสร้าง หรือองค์ประกอบต่าง ๆ ของบ้าน ให้กลับมาใช้งานได้ปกติ เช่น ซ่อมแซมหลังคา การทาสีใหม่ การเปลี่ยนพื้นกระเบื้อง เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วเจ้าของบ้าน ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตกับทางนิติ หรือองค์กรใด ๆ แต่ควรมั่นใจว่าการซ่อมแซมบ้าน เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
หากคุณต้องการต่อเติมบ้าน จะไม่สามารถทำได้เต็มพื้นที่ดิน เพราะอาจทำให้ผิดกฎหมาย และถูกรื้อถอนได้ โดยมีข้อกำหนดว่า
ห้ามใช้พื้นที่ดินไปเกิน 60% ของที่ดินทั้งหมด (ไม่รวมถนน) และห้ามใช้พื้นที่ดินไปเกิน 80% ของพื้นที่ดินทั้งหมด (รวมถนน)
คุณจะต้องมีพื้นที่ว่างเหลือ ไม่น้อยกว่า 30% ของพื้นที่ดินทั้งหมด (ไม่รวมถนน) เพื่อให้สามารถระบายน้ำ และถ่ายเทอากาศได้ดี
ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร คุณต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่อเติมบ้าน ที่กำหนดระยะห่างของแนวอาคาร และเขตที่ดินไว้ เพื่อควบคุมไม่ให้มีสิ่งก่อสร้างใกล้ชิดกันมากเกินไป และความปลอดภัยต่อพื้นที่โดยรอบ มีข้อกำหนด ดังนี้
อาคารที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร ที่เว้นว่างอาคารที่มีหน้าต่าง ประตู ช่องระบายอากาศ ช่องแสง หรือระเบียงอาคาร จะต้องห่างกับเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตร
กรณีอาคารที่มีความสูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่เกิน 23 เมตร จะต้องเว้นว่างอาคารที่มีช่องเปิดอย่างน้อย 3 เมตร
กรณีผนังทึบสามารถเว้นระยะห่าง จากแนวที่ดินได้อย่างน้อย 50 เซนติเมตร (ยกเว้นเจ้าของพื้นที่ข้างเคียง มีหนังสือยินยอมให้สร้างได้ และสร้างชิดได้น้อยกว่า 50 เซนติเมตร)
ระยะห่างของชายคา หรือกันสาด ต้องห่างจากแนวเขตที่ดิน ไม่น้อยกว่า 0.5 เมตร เท่ากับกรณีผนังทึบ
หากต้องการต่อเติมระเบียงชั้นบน จะต้องเว้นระยะจากระเบียงถึงแนวเขตที่ดิน ไม่น้อยกว่า 2-3 เมตร เท่ากับกรณีต่อเติมเต็มผนัง ที่มีช่องเปิดตามความสูงของอาคาร
การต่อเติมบ้านนั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัว เนื่องจาก อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ประโยชน์ใกล้เคียงได้ อาทิ การบังแสง การกีดขวางทางลม หรือการส่งเสียงดัง เป็นต้น โดยที่ผู้ต้องการต่อเติมบ้าน จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
สถาปนิก หรือวิศวกร มีหน้าที่ช่วยออกแบบแผนการต่อเติมบ้าน และให้คำแนะนำผู้ว่าจ้างได้ทราบถึงกฎหมายต่อเติมบ้าน ไปจนถึงขั้นตอนการอนุญาต โดยต้องควบคุม และตรวจสอบ เพื่อให้แผนงานต่อเติมบ้านได้รับความยินยอมจากเจ้าพนักงาน
นอกจากนี้ สถาปนิก และวิศวกร ยังมีหน้าที่ออกแบบ และคำนวณโครงสร้างระบบไฟฟ้า และระบบประปาให้เหมาะสม โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างเดิม ซึ่งต้องประสานกับผู้รับเหมา เพื่อให้การต่อเติมบ้านสมุทรปราการเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต รวมถึงต้องมีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน
หากต้องการต่อเติมบ้าน คุณจะต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าพนักงานเขต เจ้าพนักงานอำเภอ หรือพนักงานเทศบาล เป็นต้น โดยการขออนุญาต จะต้องแสดงแผนการต่อเติมสิ่งปลูกสร้าง และแผนการใช้ประโยชณ์ในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าพนักงานเห็นชอบ ว่าไม่ผิดกฎหมายต่อเติมบ้าน ไม่เป็นอันตรายต่อเพื่อนบ้างข้างเคียง และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ผลจากการต่อเติมบ้านโดยไม่ขออนุญาต ต้องจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังมีการกำหนดโทษปรับรายวัน วันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าผืน หรือจนกว่าจะปฏิบัติได้ถูกต้อง ซึ่งอาจรับเป็นเงินสด หรืออาจเป็นการเลือกเก็บปลายทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม การต่อเติมบ้านโดยไม่ขึ้นอนุญาติ หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ก็อาจส่งผลร้ายแรงตามมาได้ ทั้งโทษทางกฎหมาย และปัญหาความขัดแย้งกับผู้อื่น ดังนั้น ผู้ที่วางแผนจะต่อเติมบ้าน ควรเตรียมตัว และศึกษากฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ ให้ดี รวมถึงขออนุญาตให้ถูกต้องเป็นกิจลักษณะ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการถูกลงโทษตามกฎหมาย
นอกจากข้อระวังที่มีโทษแล้ว ยังมีข้อควรระวังอื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิ การเลือกช่างผู้รับเหมาที่มีความน่าเชื่อถือ การตรวจสอบงานก่อสร้างอย่างละเอียด การเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ตลอดจนการดูแลรักษาบ้านที่ต่อเติมอย่างสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้น การต่อเติมบ้านจึงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่ควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ รวมถึงควรปรึกษาวิศวกร หรือผู้เชี่ยวชาญ และดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นครทอง เข้าใจดีว่าการต่อเติมบ้าน อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน เราจึงได้พัฒนาโครงการทาวน์โฮม จังหวัดสมุทรปราการ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของครอบครัว ซึ่งหนึ่งในโครงการที่น่าสนใจ และอยากแนะนำก็คือ นครทอง The Urban Vibe แพรกษา-นิคมฯ บางปู โครงการทาวน์โฮมภายใต้คอนเซปต์ “Live Complex Life Complete” ที่ผสมผสานการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ และเข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว
โดยโครงการบ้านสมุทรปราการประกอบไปด้วย บ้านทาวน์โฮม และบ้านแฝดขนาดใหญ่ กว้างขวาง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ อย่าง Smart Security Home และ Digital Door Lock เพื่อมอบความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสูงสุด ที่ตั้งอยู่บนทำเลซอยแพรกษา ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางปู สามารถเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ส่วนตัว หรือรถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษา ทั้งยังอยู่ใกล้แหล่งงาน และห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนัก
สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาโครงการบ้าน ทำเลสมุทรปราการ นครทอง The Urban Vibe อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ หากต้องการสอบถาม หรือเยี่ยมชมโครงการ ติดต่อเราได้ที่
Line: @nktgroup
โทร 087-678-9296 (นครทองลีฟวิ่ง)
084-641-2666 (นครทองโคโลนี่)
097-1854467 (นครทอง ดิ เออเบิร์น ไวบ์)
Inbox: Nakornthong Group