เรื่องบ้านไม่กั๊ก กับนครทอง

อยากกู้ซื้อบ้าน ต้องวางแผนออมเงินอย่างไรให้ผ่อนสบายกระเป๋า

อยากกู้ซื้อบ้าน ต้องวางแผนออมเงินอย่างไรให้ผ่อนสบายกระเป๋า

การซื้อบ้านหนึ่งหลังสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ การเก็บเงินก้อนใหญ่ หรือที่เรียกว่า “ซื้อบ้านเงินสด” และการเก็บเงินบางส่วนเพื่อใช้สำหรับดาวน์บ้านเรียกว่า “ซื้อบ้านเงินผ่อน” โดยทั้งสองวิธีนี้ก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานภาพทางเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ชีวิตของแต่ละคน

 

ทั้งนี้ คนโดยส่วนใหญ่มักเลือกใช้วิธีซื้อบ้านด้วยเงินผ่อน เนื่องจาก เป็นวิธีที่ช่วยลดภาระการจ่ายเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว และสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ตามระยะเวลาที่ตกลงกับธนาคาร หรือสถาบันการเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อสามารถบริหารจัดการเงินสดที่มีอยู่ได้ดีขึ้น ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรายได้ปานกลาง หรือมีรายได้จำกัดสามารถเข้าถึงการเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น

 

ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้กำลังอยากกู้ซื้อบ้าน บทความนี้ นครทอง จะมาแชร์เคล็ดลับต้องวางแผนออมเงินอย่างไร ให้ผ่อนค่าบ้านบางปูหลังแรกสบายกระเป๋า ถ้าพร้อมกันแล้ว ตามไปดูกันเลย

เคล็ดลับ ออมเงินซื้อบ้าน ทำเลบางปูหลังแรก สำหรับวัยทำงาน Gen Y

Gen Y หรือ มิลเลนเนียล (Millennial) คือคำใช้เรียกกลุ่มประชากรที่เกิดในช่วงปี พ.ศ.2524 - 2539  ถือเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงานจำนวนมาก ทำให้กลุ่มคนในวัยดังกล่าว มีกำลังซื้อค่อนข้างมาก รวมถึงเป็นช่วงอายุเริ่มต้นในการวางแผนชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การหางานที่มั่นคง การมีครอบครัว รวมถึงการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กลุ่ม Gen Y จะมีกำลังทรัพย์ในการซื้อสูง แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถซื้อบ้านได้อย่างง่ายดาย เนื่องจาก ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงราคาของอสังหาริมทรัพย์ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การซื้อบ้านในปัจจุบันต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จึงทำให้การวางแผนเก็บเงินซื้อบ้าน มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งมีเคล็ดที่น่าสนใจ ดังนี้

  • ลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 

ขั้นตอนแรกสำหรับการออมเงินซื้อบ้าน คือการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และควรระมัดระวังการใช้จ่ายให้มากขึ้น เพื่อไม่สร้างภาระเพิ่มหากต้องการมีบ้านหลังแรก ดังนั้น หากตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อบ้าน ควรเริ่มออมเงินทันทีที่มีรายได้เข้าบัญชี ในจำนวนเงินแต่ละเดือนที่เท่ากัน เพื่อป้องกันไม่ให้เผลอใช้เงินดังกล่าวไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น

  • การบริหารจัดการหนี้สิน 

สำหรับผู้ที่มีหนี้สินอื่น ๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อผ่อนสินค้า หรือหนี้ค่าผ่อนรถยนต์ ควรจัดการชำระหนี้เหล่านั้นให้เรียบร้อย ก่อนวางแผนซื้อบ้าน เพื่อที่จะสามารถมุ่งเน้นการจ่ายค่าดาวน์บ้านได้อย่างไม่ต้องกังวล 

 

อีกทั้งการมีหนี้สินค้างอยู่ในจำนวนมาก อาจส่งผลให้การขอสินเชื่อ เพื่อซื้อบ้านเป็นไปได้ยากขึ้น เนื่องจาก วงเงินในการกู้ซื้อบ้านอาจถูกจำกัดลง หรือในบางกรณีอาจไม่สามารถยื่นขอสินเชื่อได้เลย

  • ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

หากต้องการผ่อนบ้านบางปูให้สบายกระเป๋า อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ไม่ควรพลาด คือการวางแผนเรื่องภาษี เนื่องจาก ในกลุ่มคน Gen Y มีรายได้ค่อนข้างมาก ส่งผลให้ภาษีที่ต้องจ่ายก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ควรเตรียมรับมือด้วยการวางแผนภาษีที่ดี โดยอาจมองหาวิธีลดหย่อนภาษี เช่น การบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศล หรือการทำประกันชีวิต 

 

นอกจากนี้ เพื่อให้การใช้ชีวิตราบรื่นในระยะยาว ควรให้ความสำคัญกับการออมเงิน 20 % ของรายได้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และรองรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ที่นอกเหนือจากค่าผ่อนบ้าน

  • ลงทุนให้เงินออม

การลงทุนให้เงินออมให้เพิ่มขึ้น ก็เป็นอีกแนวทางที่เหมาะสม สำหรับที่ผู้ที่มีเงินออมสูงในแต่ละเดือน ซึ่งการเก็บเงินออมซื้อบ้านสักหลัง อาจใช้เวลาในการจัดเก็บหลายปี โดยขั้นต่ำอยู่ที่ 3 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเก็บเงินของแต่ละคน ซึ่งภายใน 3 ปีนั้น ค่าบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์แถวบางปู อาจมีราคาที่เพิ่มขึ้น จากค่าเงินเฟ้อ ทำให้การเก็บเงินออมก็เพิ่มขึ้นตาม

 

เพราะฉะนั้น การนำเงินออมไปลงทุนในสินทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากประจำ เช่น กองทุนรวม ตราสารหนี้ หรือสลากออมทรัพย์ อาจเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มมูลค่าเงินออม อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการนำเงินออมไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และมีความผันผวนในตลาดมาก เช่น คริปโทเคอร์เรนซี ทองคำ หรือเงินสด เพราะอาจทำให้เงินออมลดลงได้

 

จะเห็นได้ว่าการวางแผนซื้อบ้านสักหลังเป็นเรื่องง่าย แต่มีรายละเอียดที่ต้องจัดสรรเงินออมให้เหมาะสม ดังนั้น กลุ่ม Gen Y ที่กำลังหาที่ปรึกษา และวางแผนซื้อบ้านบางปู ก็สามารถติดต่อได้ที่นครทอง

สำรวจปัญหาค่าเงินเฟ้อ ก่อนซื้อบ้าน ทำเลบางปู

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ภาวะเงินเฟ้อ” แต่ไม่ทราบถึงความหมายที่แท้จริง ภาวะเงินเฟ้อ หมายถึงสถานการณ์ที่ราคาสินค้า และบริการในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือกล่าวง่าย ๆ คือ การที่เราซื้อสินค้าชนิดเดิมแต่ต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของราคานี้ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้าที่เงินเฟ้อยังไม่เกิด 

 

ทั้งนี้ ภาวะเงินเฟ้อยังส่งผลกระทบต่อการซื้อที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน จึงต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ นอกจากการออมเงินแล้ว ควรพิจารณาเลือกทำเลของบ้าน ที่มีศักยภาพในการเติบโต เพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว อย่างเช่น ทำเล “บ้านบางปู” ที่มีโอกาสเพิ่มมูลค่า และเติบโตได้ในอนาคต

ไขคำตอบ ทำไมบ้านบางปู ถึงตอบโจทย์การลงทุน และการอยู่อาศัย

ทำเลย่านบางปู เป็นอีกหนึ่งทำเลทอง ที่อยู่ในโซนชานเมืองใกล้กรุงเทพฯ มีความเจริญเป็นอย่างมาก โดยรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือสถานบันเทิง รวมถึงมีเส้นทางรถไฟฟ้า เชื่อมต่อเข้าใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวก

 

สำหรับใครที่กำลังที่อยู่อาศัยในทำเลนิคมฯ บางปู ก็ขอแนะนำ โครงการนครทอง The Urban Vibe เป็นหนึ่งในโครงการบ้านบางปูที่น่าสนใจในทำเลนิคมฯ บางปู ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว 

 

โดยมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สนามบาส สวนส่วนกลาง และสนามเด็กเล่น ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และเติมเต็มกิจกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ และครอบครัว หากสนใจสามารถติดต่อ ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

 

Line: @nktgroup 

โทร 087-678-9296 (นครทองลีฟวิ่ง)  

084-641-2666 (นครทองโคโลนี่) 

097-185-4467 (นครทอง ดิ เออเบิร์น ไวบ์)

Inbox: Nakornthong Group