5 เทคนิคคุมโทนสีบ้าน สไตล์คาเฟ่ง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง

เบื่อบ้านสไตล์เดิม ๆ หรือไม่ ? บางครั้งก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศให้ที่อยู่อาศัยมอบอารมณ์ความโคซี (Cozy) ได้เหมือนอยู่คาเฟ่ แต่จะต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ยกเซต หรือต่อเติมห้องใหม่ ก็คงจะเกินงบประมาณมากไปหน่อย แต่จะดีกว่าไหมถ้าเพียงแค่รู้เทคนิคในการเลือกคุมโทนสีห้องให้เปลี่ยนสไตล์มาเป็นเหมือนร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ไม่ว่าจะห้องไหนก็รับรองว่าน่าอยู่ แถมยังให้ความรู้สึกแปลกใหม่ไม่จำเจอีกด้วย

เพราะฉะนั้น ในบทความวันนี้ นครทอง ก็มีข้อแนะนำดี ๆ ในการเลือกโทนสีให้เข้ากับบ้านมาฝากทุกคนกันด้วย พร้อมกับเทคนิคในการเลือกคุมโทนสีห้องที่ไม่จำเป็นต้องต่อเติมใหม่ให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ก็เหมือนเนรมิตบ้านหลังใหม่ให้เป็นสไตล์คาเฟ่ เพิ่มความน่าอยู่อาศัยแบบคูณร้อย จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามอ่านกันได้เลย

MIX & MATCH โทนสีบ้านให้เข้ากับสไตล์ที่เป็นตัวเรา

การจัดการเรื่องโทนสีบ้าน ก็สามารถบ่งบอกรสนิยมของผู้อาศัยได้เช่นกัน นอกจากนี้ ก็ยังทำให้บ้านบางพลีมีความโดดเด่น และแตกต่างไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังให้ความรู้สึกที่เป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัย เหมาะที่จะเป็นทั้งที่พักกาย และพักใจของสมาชิกครอบครัว ดังนั้น การเลือกโทนสีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่สำหรับใครที่จับคู่สีไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวล เพราะเรามีตัวอย่างคู่สีที่มิกซ์แอนด์แมตช์มาให้แล้วเรียบร้อย รับรองว่าจะช่วยทำให้สไตล์ของบ้านลงตัว และน่าอยู่มากขึ้น

• โทนสีขาว-เทา

ใครที่ชอบความโมเดิร์นทันสมัย แต่ยังคงเน้นความเรียบง่ายที่ดูหรูหรา ก็ขอแนะนำว่าควรจะใช้คู่สีโทนขาว-เทาในการคุมโทนสี เพราะสีขาวนั้นให้ความรู้สึกสะอาดตามากกว่าสีอื่น ๆ แต่เมื่อตัด Mood กันด้วยสีเทาที่ไม่ดุดันจนเกินไปเหมือนสีดำ ก็ทำให้ตัวบ้านมีมิติมากขึ้น อีกทั้งสีขาวยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าสีอื่นด้วย

• โทนสีเบจ-เอิร์ธโทน

สายอบอุ่นที่อยากให้บ้านมีสไตล์โคซี (Cozy) ก็ลองเน้นการตกแต่งตัวบ้านด้วยสีเบจ หรือสีในกลุ่มเอิร์ธโทน (Earth Tone) ก็จะช่วยให้บ้านมีความนุ่มนวลละมุนละไมมากขึ้น นอกจากนี้ บ้านสไตล์โคซียังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยผ่อนคลายจากความเครียด และความเหนื่อยล้าได้ดี อาจจะเพิ่มการตกแต่งด้วยวัสดุที่ทำจากไม้เพิ่มเติมเข้าไป ก็จะยิ่งทำให้บรรยากาศของบ้านอบอุ่นหัวใจมากยิ่งขึ้น

• โทนสีน้ำเงิน

โทนสีน้ำเงินก็ถือเป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์นไม่แพ้คู่สีขาว-เทา แต่จะให้ความโดดเด่น และไม่จำเจได้ดีกว่า แถมยังช่วยทำให้บ้านดูสงบ และร่มเย็นมากขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าโทนสีน้ำเงินจะทำให้บ้านดูมืดลงเล็กน้อย แต่แก้ได้ด้วยการติดตั้งโคมไฟส่องสว่าง เพิ่มความมีเสน่ห์ และน่าค้นหาให้กับตัวบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่เหมาะกับการคุมโทนบ้านได้ดีทีเดียว

• โทนสีเขียวพาสเทล

ใครที่ชอบสไตล์บ้านแบบคาเฟ่มินิมอล การเลือกสีเขียวพาสเทลมาตกแต่งบ้านอาจจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เพราะเป็นสีที่ให้ความสบายตา และสบายใจไปพร้อมกัน อีกทั้งยังเป็นสีที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ทั้งนี้หากเลือกเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่ง อย่าง ต้นไม้ เข้าช่วยก็จะยิ่งทำให้บ้านดูสดชื่น และร่มเย็นผสมผสานกันไปได้อย่างลงตัว เหมาะกับสายรักธรรมชาติอย่างยิ่ง

• โทนสีชมพูอ่อน

การเลือกตกแต่งบ้านบางพลี ให้คุมโทนด้วยสีชมพูอ่อน เพียงแค่เปลี่ยนระดับเฉดสีก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สำหรับสายหวานอาจเลือกเป็นชมพูอ่อนพาสเทล ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่คาเฟ่เจ้าหญิง หรือหากเลือกสีชมพูอ่อนที่เฉดเข้มขึ้นมาหน่อย ที่อยู่อาศัยก็จะกลายเป็นสไตล์ทรอปิคอล (Tropical) ไปได้โดยปริยาย โดยเฉพาะหากเจ้าของบ้านคนไหนต้องการเพิ่มสีสัน และลูกเล่นให้กับตัวบ้าน อาจจะหาต้นไม้สีเขียวขจีมาตั้งไว้ตามมุมห้อง ก็จะยิ่งช่วยทำให้บรรยากาศของบ้านไม่ซ้ำซากจำเจ และดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

แจกตำรา คุมโทนสีบ้าน ถูกใจทุกซอกทุกมุม

สำหรับใครที่อยากสร้างโทนสีห้องเป็นของตัวเอง ไม่เน้นทำตามหลักการมิกซ์แอนด์แมตช์ที่ให้ไว้ข้างต้น ก็สามารถเปิดตำราการคุมโทนสีบ้านตามแบบฉบับตัวเองด้วยวิธีง่าย ๆ ตามด้านล่างนี้ได้เลย

• เลือกโทนสีที่ชอบ

ก่อนอื่นก็ต้องเลือกโทนสีที่ถูกใจก่อน ว่าอยากให้บ้านออกมาเป็นสไตล์ไหน จากนั้นเลือกสีที่มีความเป็นไปได้ ว่าจะช่วยสร้างผลลัพธ์ให้บ้านออกมาเป็นสไตล์นั้น อาจเลือกโทนสีที่เข้าคู่กันสักหน่อย เพื่อไม่ให้โทนห้องดูสะเปะสะปะมากเกินไป

• ใช้ทฤษฎี 60-30-10

เลือกใช้ทฤษฎีตกแต่งแบบ 60-30-10 เพื่อไม่ให้บ้าน หรือห้องที่ต้องการจะตกแต่งหลุดเฉดออกจากกัน และไม่เข้าคู่กับสีที่เลือกมา โดยสีหลัก 60% เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของห้อง อย่าง ผนังและพื้น สีรอง 30% เป็นของตกแต่งขนาดกลาง ไม่ว่าจะเป็น ผ่านม่าน โซฟา หรือพรม และสุดท้ายคือสีไฮไลต์ 10% ใช้กับของตกแต่งชิ้นเล็ก ๆ เพื่อขับเน้นให้ห้องดูมีสไตล์ และไม่น่าเบื่อ พร้อมกับมีจุดพักสายตาจากสีโดยรวมทั้งหมดของห้อง

• เลือกใช้สีพื้นกับของชิ้นใหญ่

อีกหนึ่งเทคนิคการคุมโทนสีบ้าน หรือสีห้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันไม่หลุดธีม คือ การเลือกใช้สีพื้นกับของตกแต่งชิ้นใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน หรือพรม เนื่องจาก เป็นสิ่งของที่มีขนาดใหญ่พอจะอยู่ในระดับสายตาของผู้อยู่อาศัย ซึ่งจะมอบความรู้สึกได้ชัดเจนมากกว่า ดังนั้น ก็ควรจะเลือกใช้เป็นสีพื้นเพื่อให้เกิดความสบายตา และให้ความรู้สึกอบอุ่นในห้องนั้น ๆ ด้วย

• เฟอร์นิเจอร์เข้าเซต

การเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้าเซตก็นับเป็นการช่วยคุมโทนบ้าน หรือห้องต่าง ๆ ไม่ให้หลุดธีมจากกันได้ดี เนื่องจาก เฟอร์นิเจอร์ในเซตเดียวกันจะได้ทั้งรูปทรง และสีที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ต้องมากังวลว่าซื้อเฟอร์นิเจอร์จากคนละแหล่งแล้วจะเข้าคู่กันได้ดีหรือไม่ ดังนั้น ก็ตัดปัญหาความไม่เข้าคู่กันด้วยการซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นเซตจากแหล่งเดียวกันไปเลยจะง่ายที่สุด

• ไม่เข้าพวกก็ต้องหลบ

แน่นอนว่าการคุมโทนห้อง หรือการคุมโทนบ้าน ย่อมมีสิ่งของบางอย่างที่ไม่เข้าพวกปะปนอยู่ด้วย หากนำมาตั้งโชว์ไว้กลางบ้านก็รับรองได้เลยว่าโทนสีที่คุมมาทั้งหมดจะต้องพังทลายไปในพริบตา เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่เข้าพวกก็แนะนำว่าเก็บให้มิดชิดจะดีที่สุด หากเป็นของที่ต้องหยิบใช้อยู่เป็นประจำก็เก็บไว้ในตำแหน่งที่หยิบใช้งานได้ง่าย แต่ถ้าเป็นของที่นาน ๆ จะหยิบมาใช้สักทีก็เก็บให้พ้นหูพ้นตาน่าจะเวิร์กกว่า

นครทองโคโลนี่ เมืองใหม่บางพลี โครงการบ้านจัดสรรที่ลงตัวที่สุด

ใครที่กำลังมองหาทาวน์โฮมพร้อมอยู่ คุมโทนสีมาให้เรียบร้อย เนรมิตได้ดังใจฝัน ขอแนะนำโครงการบ้านบางพลี นครทองโคโลนี่ (บางบ่อ-เมืองใหม่บางพลี) ทำเลที่ตั้งไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมืองกรุงเทพฯ ทั้งยังมีการคมนาคมสะดวกสบาย และได้ความสงบร่มรื่นของแถบชานเมือง โดยมีให้เลือกทั้งแบบพื้นที่ใช้สอยขนาด 3 ห้องนอน และ 4 ห้องนอน มาพร้อมห้องอเนกประสงค์ที่ให้เจ้าของบ้านได้สร้างสรรค์พื้นที่ตามจินตนาการ หากสนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการก็สามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่

Line: @nktgroup 

โทร 087-678-9296 (นครทองลีฟวิ่ง)  

084-641-2666 (นครทองโคโลนี่) 

097-1854467 (นครทอง ดิ เออเบิร์น ไวบ์)

Inbox: Nakornthong Group